การปรับแต่งคอมพิวเตอร์สำหรับการใช้งานอินเตอร์เน็ต
สำหรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเพื่อใช้งานภายในบ้าน จำเป็นจะต้องมีส่วนประกอบสำคัญที่จะสามารถเชื่อมต่อระหว่างผู้กับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ประกอบด้วยส่วนประกอบสำคัญ
- อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
- โมเด็ม
- โปรแกรมสำหรับการใช้งานอินเตอร์เน็ต
- วิธีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
- การเลือกผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
- เมนบอร์ด มีประสิทธิภาพสูงพอสมควรในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานในทั่วไป จะมีซีพียูรุ่น Celeron, Pentium iv และ amd ซีพียุเหล่านี้จะรองรับการใช้งานระบบมัลติมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นการ์ดจอ การ์ดเสียง และลำโพง
- หน่วยความจำแรม จะขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการที่ใช้ แต่อย่างน้อยไม่ควรต่ำกว่า 64-128 mb ในปัจจุบันนิยมใช้ windows xp หน่วยความจำแรมไม่ต่ำกว่า 256 mb
- จอภาพและการ์ดแสดงผล สามารถแสดงผลได้ตั้งแต่ 256 สีขั้นไป
- ระบบมัลติมิเดีย คือ การ์ดเสียงพร้อมลำโพง เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกรุ่นจะมีให้เฉพาะ การ์ดเสียง และลำโพงเท่านั้น อุปกรณ์เสริมอื่นๆ คือ ไมโครโฟน และกล้องเว็บแคม ผู้ใช้จะต้องหาเพิ่มเติมเองเมื่อต้องการใช้งาน
โมด็ม
โมเด็ม หรือ ( modulator/demodulator) มีหน้าที่แปลงข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล ของระบบคอมพิวเตอร์ให้เป้นสัญญาณเสียงในรูปแบบแอนะล็อก เพื่อให้สามารถส่งไปทางโทรศัพท์ได้ การ modulate โดยที่ปลายทางก็จะมีโมเด็มทำหน้าที่แปลงสัญญาณเสียงในรูปแบบแอนะล็อก ซึ่งรับมาจากโทรศัพท์ให้กลับมาเป็นข้อมูลแบบดิจิทัล เพื่อใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ เรียกว่า demodulate เนื่องจากสายโทรศัพท์ส่วนใหญ่จะสามารถส่งข้อมูลได้ ไม่เกิน 56 kbps โมเด็มแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
- โมเด็มแบบภายใน
- โมเด็มแบบภายนอก
- โมเด็มแบบ pcmcia
โปรแกรมสำหรับการใช้งานอินเตอร์เน็ต
1. โปรแกรมระบบปฏิบัติการ จำเป็นมากสำหรับการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกชนิด เพราะจะเป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่จัดสรรทรัพยากรต่างๆ ในระบบในระบบ หน่วยความจำ การบันทึกข้อมูล และอุปกรณ์ต่อเชื่อมอื่นๆ
2.โปรแกรมเว็บบราว์เซอร์ คือ โปรมแกรมที่ใช้เปิดเว็บเพจต่างๆ ในอินเตอร์เน็ต โปรมแกรมนี้จะสามารถมากมายที่จะเป็นประโยชน์ในการท่องเว็บ
3.โปรแกรมรับส่งจดหมายอิแล็กทรอนิกส์ ทำหน้าที่ข้อมูลจดหมายโดยสร้างโฟลเดอร์สำหรับเก็บจดหมายไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา
4.โปรแกรมสำหรับการสื่อสารบนอินเตอร์เน็ต ใช้สำหรับการสื่อสารระหว่างผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตด้วยกัน ในรูปแบบของการพิมพ์ข้อความโต้ตอบ เรียกว่า chat
5.โปรแกรมมัลติมีเดียบนอินเตอร์เน๊ต ใช้งานบนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันมีหลากหลายรู้แบบ ทั้งรูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เสียง วีดีทัศน์
วิธีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
จะใช้โมเด็มแบบหมุนโทรศัพท์ เรียกว่า “dial –up’’ ทำหน้าที่แปลงข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ในรูปแบบของดิจิทัล ให้เป็นสัญญาณเสียงในรูปแบบแอนะล็อก เพื่อส่งข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์ ความเร็วของการส่งข้อมูลอยู่ที่ 33.6 kbps และสำหรับการรับข้อมูลอยู่ที่ 56 kbps
การรับส่งข้อมูลแบบบรอดแบนด์
1. การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบ isdn ( intergrated services digital network )
2.การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบ adsl ( asymmetric digital subscriberv link )
3.การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบเคเบิลโมเด็ม ( cable modem )
4.การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านดาวทียม ( satellite )
5.การเชื่อต่ออินเตอร์เน็ตแบบวงจรเช่า ( leased line )
1.การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบ isdn
ถ้าต้องการใช้ระบบ isdn จะต้องขอหมายเลขโทรศัพท์ใหม่ที่เป็น isdn การให้บริการ isdn แบ่งออกเป็น 2 ระดับ
Bai สำหรับผู้ใช้รายย่อย ตามบ้านพัก หรือหน่วยงานขนาดเล็ก มีความเร็วเต็มที่ 128 mbps
Pri สำหรับองค์กรขนาดใหญ่โดยการเดินสายเคเบิลใยแก้วนำแสง จะมีช่องสัญญาณสำหรับการสื่อสาร 30 ช่องสัญญาณ แต่ละช่องมีความเร็วที่ 64 kbps
2.การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบ adsl การบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงโดยผ่านทาง สามารถ ใช้กับการเชื่อมต่อผ่านทางสายโทรศัพท์แบบเดิม สามารถเปลี่ยนสายโทรศัพท์ธรรมดาให้เป็นสายดิจิทัล มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูง
3.การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบเคเบิลโมเด็ม มีความเร็วสูงที่ไม่ต้องใช้สายโทรศัพท์ อาศัยเครือข่ายเคเบิลจากผู้ให้บริการ ถ้าต้องการใช้บริการแบบเคเบิลโมเด็มจะต้องใช้บริการของ asia net การทำงานของเคเบิลโมเด็มจะคล้ายกับ adsl มีการเข้ารหัสสัญญาณดิจิทัลด้วยความถี่สูง แล้วส่งผ่านสายเคเบิลไปยัง ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต กรณีนี้สายโคแอกเซียลทำให้สามารถรับส่งข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูง
4.การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม
เป็นบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง มีผู้ให้บริการเพียงรายเดียว cs internet ในเครือชินคอร์ปอเรชั่นเจ้าของดาวเทียมไทยคม การรัยข้อมูลด้วยสัญญาณความเร็วสูงมามายังผู้ใช้ในระดับเมกะบิตผ่านดาวเทียมโดยผู้ใช้จะต้องติดตั้งจานรับสัญญาณดาวเทียม ส่วนการส่งข้อมูล ทำการผ่านทางโมเด็มและสายโทรศัพท์มีความเร็วแค่ 56 kbps การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม เป็นช่องทางที่ถูกรบกวนได้ง่ายจากสภาพดินฟ้าอากาศควรเตรียมช่องทางอื่นในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไว้สำรองในการใช้งาน
5.การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบวงจรเช่า
การเชื่อมเอนเตอร์แบบ leased line จะเหมาะกับการใช้งานสำหรับองค์กร สถาบันการศึกษา หรือระบบธุรกิจต่างๆที่มีผู้บริการเอนเตอร์เน็ตเป็นจำนวนมาก โดยไม่ต้องหมุนโทรศัพท์เข้าไปยังศูนย์บริการอินเตอร์เน็ตเพราะการเชื่อมแบบ leased line จะเชื่อมกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าใช้จ่ายในการเช่าต้องเป็นรายเดือน โดยจะเสียค่าบริการตามความเร็วที่เช่าสายสัญญาณเป็นอัตราเดียวกันทุกเดือน และไม่ต้องเสียค่าบริการตามชั่วโมงการใช้งานอีก
ในองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีผู้ใช้บริการเอนเตอร์เน็ตจำนวนมาก จะนิยมการเชื่อมต่อเอนเตอร์เน็ตแบบนี้ เพราะสามารถใช้งานเอนเตอร์เน็ตได้โดยไม่จำกัดปริมาณการงาน โดยเฉพาะสถาบันการศึกษาต่างๆ จะต้องให้บริการแก่นักเรียน นักศึกษา และบุคลากรในหน่วยงาน
การเลือกให้ผู้บริการเอนเตอร์เน็ต (isp)
โดยมีวิธีหลักการที่ต้องคำนึง ดังต่อไปนี้
1. ความน่าเชื่อถือ ควรจะพิจารณาว่าผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตบริษัทนั้นมีความน่าถือในการให้บริการมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะสามารถหาข้อมูลได้โดยการสอบถามจากผู้เคยใช้บริการโดยตรง
2. ประสิทธิภาพของระบบ โดยพิจารณาจากความเร็วใยการรับส่งข้อมูล การเชื่อมต่อกับสายโทรศัพท์หลุดบ่อยหรือไม่ หรือในขณะที่เรากำลังทำการโอนย้ายข้อมูล และเกิดสายโทรศัพท์หลุดก็จะทำให้เราต้องเสียเวลาในการโอนย้ายข้อมูลใหม่
3. หมายเลขโทรศัพท์ ผู้ให้บริการเอนเตอร์เน้ตจะต้องมีช่องทางให้กับบริการด้วยโมเด็ม ดังนั้นจำนวนผู้บริการจะต้องสำพันธ์กับหมายเลขโทรศัพท์ที่จัดหาไว้
4. อัตราการใช้โมเด็ม ผู้ให้บริการเอนเตอร์เน็ตจะต้องมีคู่สายโมเด็มเพียงพอต่อการรองรับการใช้บริการของลูกค้า
5. ค่าบริการ โดยเราเลือกซื้อตามปริมาณการใช้งานของเราได้เพื่อให้คุ้มค่าต่อปริมาณค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายไป
6. ค่าธรรมเนียมต่างๆ พิจารณาว่าผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตแต่ละแห่ง นอกเหนืออัตราค่าบริการแล้วมีการคิดค่าธรรมเนียมอื่นๆ อีกหรือไม่
7. บริการเสริม ผู้บริการอินเตอร์เน็ตได้มีบริการเสริมอื่นๆ ให้บริการอีกหรือไม่ เช่น มีพื้นที่ว่างสำหรับการสร้าง Homepage และมี E – mail Address ให้ด้วยหรือไม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น